คำถามที่มักพบบ่อย
1.ไม้ปาติเกิ้ลบอร์ด คืออะไร ???
ตอบ ปาร์ติเกิ้ลบอร์ด (Particleboard) หรือบางประเทศมีการเรียกว่า ชิปบอร์ด (Chipboard) เป็นไม้วิศวกรรมประเภทหนึ่ง สร้างมาจากเศษชิ้นไม้ เช่นชิปไม้ หรือแม้แต่ขี้เลื่อย มาประสานกันโดยสารเคมีและนำมาทำการบดอัดด้วยความดันสูง ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดจัดเป็นไฟเบอร์บอร์ดชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับเอ็มดีเอฟ และฮาร์ดบอร์ด แต่ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดมีส่วนประกอบจากชิ้นไม้ที่ใหญ่กว่า
ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดเมื่อเปรียบเทียบกับไม้จริงและไม้อัด จะมีราคาที่ถูกกว่า ความหนาแน่นมากกว่า และมีเนื้อไม้ที่มีลักษณะเดียวกันทั้งชิ้น ขณะที่ความแข็งแรงของปาร์ติเกิ้ลบอร์ดจะน้อยกว่า โดยเมื่อนำมาใช้งานนิยมนำวีเนียร์มาติดเป็นผิวหน้าเพื่อแสดงลายไม้ หรือบางครั้งนิยมนำมาทาสีตกแต่ง
ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดนั้น เป็นไม้ที่มีน้ำหนักเบาสุดในบรรดาไฟเบอร์บอร์ด ซึ่งความแข็งแรงก็น้อยกว่าเอ็มดีเอฟ และฮาร์ดวูด ข้อด้อยอีกอย่างของปาร์ติเกิ้ลบอร์ดคือ ตัวเนื้อไม้มีการขยายตัวได้ง่าย เนื่องจากความชื้นโดยเฉพาะไม้ที่ไม่ได้มีการ ทาสี หรือว่าเคลือบซีลเลอร์ อย่างไรก็ตามปาร์ติเกิ้ลบอร์ดนิยมนำมาใช้ในงานไม้ที่ใช้ในตัวอาคาร แทนที่งานภายนอกอาคารที่มีความชื้นสูง ปาร์ติเกิ้ลบอร์ดนำมาใช้ตามเคาน์เตอร์
1.มีความแข็งแรงทนทานสูง มีความคงตัวไม่ยืดหด และแตกง่าย
2.สามารถตอกตะปูหรือใช้ตะปูควงขันใกล้ขอบแผ่น หรือทุกส่วนได้รอบด้าน
3.สามารถตัด เลื่อย และฉลุได้ง่าย ไม่แตกหัก สามารถโค้งงอได้โดยไม่ฉีกหัก
4.เป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี
5.สามารถรับน้ำหนักได้ในอัตราที่สูงกว่าไม้ธรรมดา
1.ใช้เป็นโครงหล่อเสาคอนกรีตในการก่อสร้าง
2.เป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์
3.โครงสร้างกล่องไม้
4.สำหรับรองพื้นที่นอนหรือเตียง
5.ทำผนังห้อง,ฝ้าเพดาน
สำหรับในประเทศไทย วัสดุที่ใช้ทดแทนไม้อาจจำแนกไม้เป็น 2 ประเภท คือวัสดุที่ทำจากไม้ (Wood -Based) เช่น ไม้อัด, MDF , Particle board และทำจากวัสดุอื่นๆ เช่น เหล็ก, พลาสติก, อย่างไรก็ตามวัสดุชนิด Wood- Based panel board จะได้รับการยอมรับมากกว่าวัสดุผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น เนื่องจากลักษณะและคุณสมบัติใกล้เคียงไม้ธรรมชาติ
วัสดุประเภท Wood-Based panel board หรือแผ่นไม้ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน และสามารถผลิตไม้ในประเทศได้แก่ ไม้อัด, แผ่น Particle , MDF และ Wet Hardboard ไม้อัดเป็นวัสดุทีมีการผลิตในประเทศมากกว่า 20 ปีและเป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบันและนาคตอาจมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ จากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบเนื่องจากต้องใช้ไม้ที่มีขนาดใหญ่ สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบซึ่งหายากขึ้นรวมทั้งคุณสมบัติหลายๆ ด้านก็ไม่ดีไปกว่าแผ่นไม้ประกอบชนิดอื่นๆ ในช่วงประมาณปี 2523 ได้เกิดมีโรงงาน Particle และในปี 2528 ก็เริ่มมีการสร้างโรงงาน MDF ในประเทศไทย
ในระยะแรกทั้ง Particle และ MDF ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องจากขาดความเข้าใจในตัวผลิตภัณฑ์ ของผู้บริโภคซึ่งยังนิยมใช้ผลิตภัณฑ์ไม้จากป่า ธรรมชาติซึ่งยังคงหาได้ง่าย แต่ภายหลังการปิดป่าในปี พ.ศ. 2532 เกิดสภาวะขาดแคลนไม้ธรรมชาติ ทำให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ใช้ไม้เป็นวัตถุดิบหันมาใช้ MDF และ Particle มากขึ้นทั้ง MDF และ Particle สามารถผลิตได้จากเศษไม้ซึ่งไม่สามารถนำไปทำประโยชน์อื่นได้ เช่น ปลายไม้หรือปีกไม้ ซึ่งได้จากโรงเลื่อย รวมทั้งไม้ขนาดเล็กที่ไม่สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิต แผ่นเยื่อกระดาษได้ อย่างไรก็ดี MDF สามารถนำไปใช้งานได้กว้างกว่า Particle มีความแข็งแรงมากกว่าสามารถตัดแต่งขอบได้ แกะสลักได้ และยังเป็นไม้สังเคราะห์ชนิดเดียวที่มีเนื้อไม้ประสานตัวเป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนั้น ยังสามารถทำเป็นไม้ได้ถึง 2.6 mm. อีกด้วย
คุณสมบัติของไม้ MDF
ไม้ MDF (Medium Density Fiber Board) หรือเรียกว่าแผ่นใยไม้อัดความหนาแน่นปานกลาง ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท Composite Panel ชนิดหนึ่งที่ได้จากการนำเส้นใยของไม้หรือพืชที่มีเส้นใย หรือเส้นใยของวัสดุลิกโนเซลลูโลส (Lignocelluloses Material) วัตถุดิบที่ใช้ ยูคาลิปตัส ยางพารา ฯลฯ นำมาผสมกับกาวสังเคราะห์ แล้วจึงอัดเป็นแผ่นโดยกรรมวิธีแห้ง คืออัดด้วยความร้อน (Dry Process) เพื่อให้เกิดความยึดเหนี่ยวระหว่างเส้นใยจนเป็นเนื้อเดียวกันโดยมีกาวเป็นตัวช่วยประสาน โดยมีความหนาแน่นสูง มีผิวเนื้อในละเอียดเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั่วทั้งแผ่น มีความหนา ความแน่น และความเรียบสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น สามารถขูดแต่งเนื้อไม้ได้เรียบเนียน งานที่ออกมาจึงดูเรียบร้อยไม่เป็นขุย สามารถนำมาพ่นสีในเนื้อไม้ได้สวยงาม
ประเภทและการใช้ประโยชน์ ไม้ MDF
แผ่น MDF มีความได้เปรียบแผ่นไม้ชนิดอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากสามารถนำไปประยุกต์กับการใช้งานได้เกือบทุกประเภท ด้วยคุณสมบัติที่มีความแข็งแรงสูงและความเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั่วทั้งแผ่น และถ้าแบ่งตามลักษณะคุณสมบัติ แบ่งได้ 3 ประเภท คือ
1. ชนิดความหนาแน่นสูง โดยมากนิยมใช้ทำพื้นอาคาร, บ้านเรือน, นำไปปิดผิว พ่นสี ให้ดูดียิ่งขึ้น
2. ชนิดความหนาแน่นปานกลาง นิยมใช้ในอุตสาหกรรมตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งงานแกะสลักได้เกือบทุกชนิด
3. ชนิดความหนาแน่นต่ำ ปัจจุบันเริ่มมีใช้แพร่หลายทางยุโรป และอเมริกา นิยมใช้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ Knock-down
ไม้ MDF
กรรมวิธีการผลิต MDF
1. วัสดุที่ใช้ในส่วนผสม ก็เอาไม้ยูคาลิป ต้นสน ต้นยางพารา เศษเยื่อไม้ที่เหลือจากการทำกระดาษ (ชนิดใดชนิดหนึ่งนำมาผลิต) และกากชานอ้อยที่ได้ จากโรงานทำน้ำตาลทรายแล้ว เป็นวัตถุดิบ
2. นำเข้าเครื่องบดให้เป็นผงละเอียด
3. ผสมกาว เข้าหม้อกวน จนได้ที่
4. มีท่อลำเรียงจากหม้อผสมมาโรยบนแท่นอัด
5. รีดด้วยความร้อนออกมาเป็นแผ่น
6. นำมาตัดให้ไซด์มาตรฐานคือ กว้าง 48 นิ้ว ด้านยาว 96 นิ้ว เป็นแผ่นมาตรฐานของไม้อัด
และในปัจจุบันนี้ไม้อัด MDF มีความหนาตั้งแต่ 2.6 มม.-25 มม.
ผลงานการจัดส่งและติดตั้งสินค้าเพิ่มเติมหน้าเพจด้านล่าง
https://www.facebook.com/